หลังจากน้ำท่วมบ้าน สิ่งที่ต้องทำมีอะไรบ้าง?
อุบัติภัยน้ำท่วม เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับ และหลังจากน้ำลดหรือกลับมาเป็นปกติแล้วก็ต้องจัดการซ่อมแซมบ้านให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ตามที่จะแนะนำดังต่อไปนี้
1. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าหลังน้ำท่วม
ระหว่างที่น้ำท่วมทุกบ้านคงจะปิดวงจรไฟฟ้าหรือคัทเอ้าท์เพื่อความปลอดภัย ทำให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าเดินในระบบ อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาจากไฟฟ้าลัดวงจรได้ด้วยแต่เมื่อน้ำลดลงควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านด้วยการ เปิดคัทเอ้าท์ให้มีกระแสไฟฟ้าเข้ามา ถ้ามีปลั๊กหรือจุดใดจุดหนึ่งยังเปียกชื้นอยู่คัทเอ้าท์จะตัดไฟอัตโนมัติและฟิวส์จะขาด ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนฟิวส์แล้วทิ้งไว้ 1 วัน จนความชื้นระเหยออกไปแล้วลองทำใหม่ หากยังเป็นเหมือนเดิมคงต้องตามช่างไฟมาช่วยซ่อมให้จะปลอดภัยที่สุด
หลังจากนั้นก็ลองทดสอบเปิดไฟฟ้าทีละจุดและทดสอบกระแสไฟฟ้าในปลั๊กว่ามาปกติหรือไม่ ถ้าทุกจุดทำงานได้เป็นปกติก็สบายใจได้ แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่ก็ต้องรอให้ความชื้นระเหยออกก่อนแล้วตามช่างไฟมาช่วยเปลี่ยนปลั๊กกับสวิตช์เหล่านั้น
หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ ลองดับไฟทุกจุดในบ้าน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทั้งหมด แต่ยังเปิดคัทเอ้าท์ไว้แล้งดูมิเตอร์ไฟฟ้าหน้าบ้านว่าหมุนหรือไม่ ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวนั่นหมายความว่าไฟฟ้าในบ้านไม่น่าจะรั่ว แต่ถ้ามิเตอร์หมุนแสดงว่าไฟฟ้าในบ้านท่านอาจจะรั่วได้ ให้รีบตามช่างไฟมาดูโดยเร็วที่สุด
2. ตรวจสอบระบบประปาหลังน้ำท่วม
น้ำ ก็เป็นอีกระบบในบ้านที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าไฟเพราะเกี่ยวกับสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย ซึ่งสามารถตรวจสอบระบบน้ำประปาในบ้านหลังน้ำท่วมได้คือ
ถ้ามีบ่อเก็บน้ำใต้ดินหรือถังเก็บน้ำในระดับน้ำท่วมถึง ต้องเข้าใจว่าน้ำที่ท่วมเป็นน้ำสก ดังนั้นควรล้างทำความสะอาดถังน้ำและบ่อน้ำให้สะอาดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้านโดยไม่ต้องเสียดายน้ำจากนั้นให้ปล่อยน้ำประปาใหม่ลงเก็บไว้เริ่มต้นใช้งานอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับบ้านที่มีระบบปั๊มน้ำควรตรวจสอบอุปกรณ์ปั๊มน้ำและถังอัดความดันว่าใช้งานได้เหมือนเดิมหรือไม่ โดยพิจารณาเสียงเครื่องทำงาน ดูแรงดันน้ำในท่อว่าแรงเหมือนเดิมก่อนน้ำท่วมหรือไม่ แล้วค่อยตรวจสอบดูว่าถังอัดความดันทำความดันได้ดีเหมือนเดิม ไม่มีปัญหาใดๆ
แต่หากพบว่ามีความผิดปกติ ก็ควรตรวจสอบด้วยการดูว่ามีเศษผง สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน กีดขวางการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้หรือไม่ ถ้าปั๊มน้ำที่บ้านถูกน้ำท่วม ให้เดาไว้ก่อนว่าน่าจะเสียหายและหากใช้งานต่อไปเลยอาจเกิดอันตรายจากความ ชื้นในมอเตอร์ได้ ควรเรียกหาช่างผู้ชำนาญมาทำให้แห้งก่อนตามกรรมวิธีทางเทคนิค เพื่อลดความเสี่ยงจากเพลิงไหม้ในตัวมอเตอร์ได้นั่นเอง
3.ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังน้ำท่วม
ในที่นี้หมายถึง เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า มอเตอร์ และอาจรวมไปถึงรถยนต์ก็ได้ เพราะเป็นเครื่องจักรกลที่ไม่ควรประมาทในการดูแลหรือหาทางแก้ไขซ่อมแซม ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าเพิ่งรีบใช้ เพราะอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้เมื่อโดนน้ำท่วมก็หมายความว่ามีน้ำเข้าไปในเครื่องเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีทางทราบได้เลยว่าอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้จะได้รับความ เสียหายแค่ไหน การนำไปตากแดดแล้วมาใช้งานต่อต้องบอกว่าค่อนข้างเสี่ยงอันตรายไม่น้อย และอาจกลายเป็นสาเหตุของอัคคีภัยในบ้านจากการลัดวงจรของระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์เครื่องกลของ เครื่องเหล่านั้น หรือหากจำเป็นต้องใช้งานจริงๆ ก็มีข้อแนะนำดังนี้
–ตลอดเวลาที่ใช้ต้องมีผู้อื่นอยู่ด้วยเสมอ เผื่อเวลาฉุกเฉินจะได้ปิดเครื่อง ดึงปลั๊กได้ทันที
–ที่คัทเอาท์ไฟฟ้าหลักของบ้าน ต้องใช้ฟิวส์คุณภาพดีมาติดตั้ง หากเกิดไฟฟ้าลัดวงจรเมื่อใดต้องแน่ใจว่าวงจรไฟฟ้าจะถูกตัดทันที
–หากไม่จำเป็นต้องใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ ต้องรีบนำไปแก้ไขซ่อมแซมโดยช่างผู้รู้ทันที
นอกจากนี้ หากผู้เป็นเจ้าของบ้านได้ทำประกันบ้าน รวมถึงประกันทรัพย์สินภายในบ้านไว้ ก็สามารถติดต่อบริษัทประกันเพื่อทำการขอค่าชดเชยหรือสินไหมทดแทนความเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียไปได้
4.การซ่อมแซมฝ้าเพดานบ้านหลังน้ำท่วม
การซ่อมแซมฝ้าเพดาน ถ้าเป็นฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดหรือกระดาษอัด หากเปื่อยยุ่ยมากเพราะอมน้ำก็จำเป็นต้องเลาะออกแล้วจึงเปลี่ยนแผ่นใหม่เลย จากนั้นทิ้งไว้ให้ทั้งหมดแห้งสนิทแล้วค่อยทาสีทับ
แต่ถ้าเป็นฝ้าโลหะ ให้เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ถ้าเป็นสนิมก็ให้ใช้กระดาษทรายขัดออกให้เรียบร้อยจากนั้นจึงทาสีทับเข้าไปใหม่ อีกทั้งระบบสายไฟส่วนใหญ่ที่จะเดินในฝ้าเวลาเปิดฝ้าเข้าไปต้องตรวจดูว่าความเรียบร้อยว่า มีส่วนใดชำรุดหรือไม่ หากโครงฝ้าเพดานที่เป็นไม้ เกิดการแอ่นหรือทรุดตัว ต้องแก้ไขให้ได้ระดับก่อนการติดตั้งแผ่นฝ้าใหม่
5.การซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์หลังน้ำท่วม
เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านหากได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ก็ให้ซ่อมแซมเบื้องต้น ดังนี้
–พยายามทำให้ความชื้นออกจากเฟอร์นิเจอร์ให้มากที่สุด
–เฟอร์นิเจอร์ประเภทที่บุด้วยนุ่นหรือฟองน้ำ ถ้าเป็นไปได้ควรเปลี่ยนเลย เพราะน้ำจะพาเอาเชื้อโรคมาติดอยู่ ถึงจะตากแดดให้แห้งเชื้อโรคก็ยังมีอยู่
–เฟอร์นิเจอร์ที่ติดกับที่ที่เรียกว่า Built in ต้องตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง และสายไฟที่ฝังอยู่ในตู้ รวมถึงทำความสะอาดรูกุญแจและลูกบิด
–ถ้ามีเฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ ไม่ควรนำไปตากแดดเพราะจะทำให้บิดงอได้และถ้าจะทาสีใหม่อาจต้องรอให้แห้งสนิทก่อน มิฉะนั้นจะลอกได้
และเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งบ้านก็เป็นทรัพย์สินในบ้านอีกประเภทที่สามารถเคลมประกันเพื่อเรียกค่าเสียหายหรือสินไหมชดเชยได้ หากมีการทำประกันบ้านไว้